FRA500 : Human Robotics Interface

Class Project : HOLOLENS with Smart Factory(AR System)

INSTITUTE OF FIELD ROBOTICS(FIBO)| KING MONGKUT’S UNIVERSITY OF TECHNOLOGY THONBURI

TEAMS : NOPPORN B. , TIDARAT D.

เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาและการทำงานของระบบ จาก Progress I จะทำเรื่องการประกอบชิ้นงานด้วย HoloLens แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็น HoloLens with Smart Factory แทน ซึ่งรายละเอียดจะมีอัพเดตด้านล่างดังต่อไปนี้

Objective

• เพื่อใช้เทคโนโลยี AR และ Vuforia Engine มาพัฒนาเป็นระบบที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานร่วมกับระบบ Smart Factory
  ** Smart Factory ส่วนของ Product Stack ซึ่งจะเป็นเกี่ยวกับการแสดงสถานะการทำงานของส่วนนั้นเป็นหลัก คือ ส่วนที่แสดงสถานะปัจจุบันของ order ที่กำลังทำอยู่ และ เป็นส่วนที่ผู้ใช้สามารถ Input Products Orderได้

System Scenario

System Scenario

จากภาพด้านบน ก็คือ ระบบที่เราจะทำเป็นระบบ AR ที่เอาไว้ใช้สำหรับ Smart Factory ที่ใช้ HoloLens ในการดูข้อมูล หรือ สถานะต่าง ๆ ของ ระบบ Smart Factory โดยหลักๆ จะดูสถานะการทำงานส่วนที่เป็น Products stack โดยเมื่อเราตรวจจับหรือเจอ Marker ก็จะมีการ pop up หน้าต่าง UI แสดงสถานะหรือข้อมูลของส่วนนั้นขึ้นมา

System Overview

System Overview

ถ้ามองจาก System Overview ไม่ออก ลองมาดูเป็น Flowcharts การทำงานของระบบกัน

Flowchart แสดงการทำงานส่วนของภาพรวมทั้งหมด

ระบบของเราเป็นระบบที่มีการใช้ HoloLens +Unity + Vuforia มาประยุกต์ใช้ด้วยกัน ก็คือ เราจะใช้ Unity ในการสร้าง User interface(UI) เพื่อเอาไปใช้งานสำหรับ HoloLens ซึ่งตัว HoloLens จะมีไว้สำหรับแสดงผล โดยเมื่อ HoloLens เจอ QR Code HoloLens ก็จะแสดงให้เห็นว่า QR code หรือ Mark ตำแหน่งนั้นระบบส่วนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งเราจะใช้ Vuforia ในการอ่านและประมวลผลส่วนนั้น และ แปลง QR code ที่จับได้ให้เป็นภาพหรือ UI ในโปรแกรม Unity ซึ่งใน UI จะแสดงข้อมูลการทำงาน ณ ตำแหน่งการทำงานนั้นๆ

Design

• Programming
  สำหรับตัวโปรแกรมที่ใช้นั้นจะประกอบไปด้วยส่วนของ การสร้าง User interface(UI) ด้วยโปรแกรม Unity ร่วมกับ vuforia for HoloLens ที่ใช้สำหรับตรวจจับวัตถุประเภทรูปภาพ และใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดเก็บ Target หรือ Marker ด้วย และนอกจากซอฟต์แวร์ดังกล่าวแล้วยังมีใช้ซอฟต์แวร์ Visual Studio สำหรับการ Coding
• MQTT Diagram

ระบบจะมีทั้งหมด 3 ส่วน

ส่วน Hardware

• จะอัพเดตสถานะเซนเซอร์ต่าง ๆ ให้กับ Server เช่น Light Sensor ที่อ่านค่าเป็นแบบ Digital IO จะอัพเดตค่าที่อ่านได้และส่งไปยัง topic นั้น ๆ เป็นต้น
• Server สั่งการทำงาน Actuator ต่าง ๆ ได้ เช่น Pneumatic จะทำการสูบลมเข้าเมื่ออ่านค่าจาก topic นั้น ๆ เป็น 1 และสูบลมออกเมื่ออ่านได้ 0 เป็นต้น

ส่วน Server

• คำนวณค่าจาก topic ต่าง ๆ เพื่อมากำหนด State และกำหนดการทำงานต่าง ๆ เช่น จะต้องสั่ง Pneumatic ตัวไหนก่อนหลัง อย่างไรบ้าง
• อัพเดต state เพื่อไปแสดงผลที่หน้า UI

ส่วน UI

• อ่านค่า order และอัพเดตให้กับ Server ว่า order นั้น ๆ จะต้องมีกล่องสีอะไรบ้าง
• แสดงสถานะการทำงานปัจจุบัน ว่า order นั้น ๆ ประกอบไปด้วยกล่องสีอะไรบ้าง และทำกล่องไหนไปแล้วบ้าง
• UI Design with unity

• Vuforia
  ออกแบบ Marker ที่เราใช้จะเป็น QR Code และเก็บเป็น Target ไว้ใน website ของ Vuforia ซึ่งจะมีด้วยกันจำนวน 1 Marker โดยจะต้องมีการลงทะเบียนก่อนใช้งาน Marker ที่เราได้ออกแบบไว้เพื่อใช้เป็น Target เป็นดังรูปด้านล่างนี้

Marker ที่สร้างเองเพื่อใช้ในการทดสอบ

• เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง QR Code นี้ก็คือ QR Code Generator | Create Your Free QR Codes (qr-code-generator.com) โดยได้เข้าไปเลือกสร้างในรูปแบบ SMS และทำการเลือกรูปแบบ และตกแต่ง QR Code และดาวน์โหลดเป็นรูปลงมาใช้เป็น Marker แทนได้
• Mechanics and Electronics สำหรับสองส่วนนี้ทางผู้จัดทำไม่ได้มีการทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากศึกษาและพัฒนาต่อมาจากระบบ Smart Factory ซึ่งมีทีมที่ทำส่วนนั้นไว้อยู่แล้ว

Implementation

Software ที่ใช้ในการทำงานของระบบจะมีหลักๆ 3 ส่วนได้แก่ Unity, Vuforia Engine และ MQTT Server

ก่อนจะเริ่มใช้งานต้องทำการ ติดตั้งโปรแกรมก่อน เริ่มจากการติดตั้ง Unity Download — Unity (unity3d.com) สำหรับ Requirement ในการติดตั้งสามารถศึกษาจากลิ้งค์ที่กำหนดให้ได้เลย ** สำหรับ Class project นี้ใช้เป็น Unity Version2020.3.4f

สำหรับ Vuforia Engine ก็ต้องมีการลงทะเบียนเพื่อที่จะเริ่มใช้งานก่อนสามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ → Vuforia Developer Portal
หมายเหตุ สำหรับการติดตั้งหรือนำเข้า vuforia engine to unityในกรณีถ้ามีปัญหา นำเข้าไม่ได้ให้ลองดู Requirement ต่างๆของตัว version ของโปรแกรม

UNITY + VUFORIA

เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว ต่อไปก็เริ่ม Create New Project โดยเลือก Template เป็นแบบ 3D และสร้างชื่อโปรเจ็กต์ จากนั้นกด Create

จะปรากฏหน้าต่างดังรูปด้านล่าง

จากนั้นเลือกที่แถบเมนู Window เลือก Package Manager เพื่อที่จะนำ Vuforia Engine เข้ามาใช้ใน Unity

จากนั้นให้ทำการเลือก Vuforia Engine แล้วทำการ Import เข้ามา

เมื่อขึ้นหน้าต่างดังรูป ให้กดเลือก All แล้วกด Import

จากนั้นจะพบว่าในแถบ Hierarchy ของ Unity เมื่อคลิ๊กขวาจะพบว่ามีฟังก์ชันการทำงานที่ชื่อ “Vuforia Engine” ซึ่งแปลว่า Vuforia Engine พร้อมใช้งานแล้ว

ต่อไปจะเป็นการลบ Main Camera ที่ปรากฏในแถบ Hierarchyออก และเปลี่ยนเป็นกล้อง AR camera

และทำการสร้าง Image Target โดยคลิ๊กขวาในแถบ Hierarchy → Vuforia Engine → Image Target และทำการตั้งค่าในแถบ Inspector

ในส่วนของ Image Target Behavior (Script) จะเห็นแถบเมนูอยู่ 3 ช่องได้แก่ type, Database, Image target โดยจะทำการ Set ค่าทั้งสามค่านั้นดังรูปด้านล่าง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการตั้งค่าเป็นดังนี้ จะปรากฏเป็นการ์ดรูปนักบินอวกาศ ซึ่งรูปนี้เป็น รูปที่ มีใน Package อยู่แล้วเราไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม

ต่อไปทำการสร้าง 3D Object “Cube” ให้เป็น Child ของ Image Target รูปนี้ ดังรูปด้านล่าง

จากนั้นลองกด Run แต่ก่อนกด Run ให้เราเลือกแถบเมนู Window ด้านบน เลือก Vuforia Configuration เพื่อเข้าไปตั้งค่าเกี่ยวกับกล้องในกรณีที่เราไม่ได้ใช้กล้อง webcam

เมื่อเรากด Run และลอง test ด้วยการเปิดรูปการ์ดนักบินอวกาศจากโทรศัพท์เป็นรูปเดียวกันกับที่เราสร้างใน unity ก็จะปรากฏดังรูปด้านล่าง

เมื่อทดสอบว่าสามารถใช้งานพื้นฐานของ Vuforia ได้แล้ว ต่อไปจะทำการสร้าง Marker ของเราขึ้นมาเอง โดย Marker ที่เราจะใช้ทดสอบจะมีลักษณะหน้าตาเป็นรูป QR Code ที่ได้กล่าวไว้ตอนข้างต้น

อย่างแรก เลยก็คือ เปิด web browser ของ Vuforia Engine ขึ้นมา หลังจากลงทะเบียนเสร็จ ต้องมีการสร้าง Get Development Key ขึ้นมา ทำการตั้งชื่ออะไรให้เสร็จ สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือ เราต้องมีการลงทะเบียน Marker ที่เราสร้างขึ้นมาเองเพื่อที่จะใช้งาน Marker นั้นในได้

จากในรูปได้ทำการสร้าง Development Key : classproject500 เมื่อสร้างเสร็จเรา
สามารถคลิ๊กไปดูรายละเอียดได้

รายละเอียดด้านในของ Development key จะบอกรายละเอียดดังรูป ซึ่งสิ่งสำคัญเลยก็คือ ตัว License key จะต้องทำการ copy ไว้เพื่อจะนำไปทำการตั้งค่าใน Unity

แถบเขียวด้านบน เลือก Target Manager เพื่อที่จะทำการลงทะเบียน Marker ที่เราสร้าง กดเลือก Add Database → ตั้งชื่อให้กับdatabase ในภาพจะมี database ชื่อ “Ar01”

ต่อไปกด Add Target ในdatabase : “Ar01” จากนั้นให้เราเลือกไฟล์รูปที่เราเตรียมไว้ ระบุค่าต่างๆตามที่ระบบต้องการ แล้วกด Add

จะพบว่า รูป Marker ที่เราจะใช้นั้นได้ทำการเพิ่ม และลงทะเบียนใน Vuforia เรียบร้อยแล้ว

จากนั้นกดเลือก Marker ที่เราต้องการ ในการทดลองครั้งนี้ใช้ Marker ที่ชื่อว่า “qr test 500” และกด Download Database โดยเลือกเงื่อนไขการดาวโหลดเป็น Unity editor

เมื่อดาวโหลดเสร็จจะได้เป็น Unity Package File หน้าตาดังรูป

ต่อไปจะต้องทำการ Import Unity Package File : Ar01 เข้าไปในโปรแกรม ซึ่งขั้นตอนการ Import จะเป็นวิธีเดียวกันกับการ import ครั้งอื่นๆ

เมื่อ Import เข้ามาแล้ว ในหน้าต่างแถบ Inspector ในส่วนของ Image Target Behavior มีการปรับค่าตรงนั้นโดย รูปที่เราเลือกจาก Database ตรงส่วนนั้นจะต้องเลือกเป็น Ar01 นั่นก็คือ รูปที่เราลงทะเบียนใน Vuforia ไว้

ก่อนกด Run ไปที่แถบเมนู window → Vuforia Configuration เพื่อทำการใส่ License key ที่ได้จากการลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้

ซึ่งต้อง copy license นั้นมาเพิ่มในช่อง App License Key ของ Unity → Run

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบการทำงานของ Vuforia เป็นอันเสร็จ สามารถใช้งานได้

ต่อไปทำการสร้าง Image Target ที่เราจะใช้จริงๆ ซึ่ง Image Target ที่จะใช้คือรูป Qr code ที่แสดงในรูปด้านล่าง โดยการนำเข้ารูปนั้นก็คือ คลิ๊กขวาในแถบ Hierarchy → Vuforia Engine → Image Target

จากนั้นเลือกที่ Image Target จะแสดงให้เห็นแถบ Inspector ซึ่งเราจะต้องทำการเลือกตรงช่อง database เป็น Ar01 นั่นก็คือ Unity package file ที่เราได้จากการนำรูป Qr code ดังกล่าวไปลงทะเบียนเพื่อสร้าง Image Target ใน Vuforia นั่นเอง

ซึ่งในขั้นตอนถัดไปจะเปลี่ยนจาก Object ที่เราได้ทดลองใช้เป็น หน้าต่าง UI ที่เราจะใช้แสดงจริงๆ

Create UI

จากด้านบนที่เป็นส่วนของ Vuforia ที่ได้ทำการทดสอบไปด้วยการวาด Object อย่างง่ายเพื่อจะใช้ในการ Detect รูป ต่อไปเราจะเปลี่ยนจาก Object ดังกล่าวเป็นหน้าต่าง UI สำหรับแสดงข้อมูลแทน และทำการสร้างตามที่เราได้ออกแบบไว้ด้านบน

ในหน้าต่าง UI จะมี 2 ส่วน ได้แก่ส่วนที่แสดงผลสถานะการทำงานปัจจุบันของ Order และส่วนที่เป็น Product List ที่ผู้ใช้สามารถกด Order ตามที่ต้องการได้

ในแถบ Hierarchy คลิ๊กขวาที่ “ImageTarget ” → UI → Panel →Canvas แล้วทำการเปลี่ยนชื่อ Panel เป็น “UIManager” และเปลี่ยนชื่อ Canvas เป็น “Background” และตั้งค่าสีขาว รวมไปถึงขนาดของ background ในแถบ Inspector

แบบเดียวกันกับวิธีก่อนหน้า โดยจะสร้าง Child ต่อจาก “Background” โดยสร้าง Child ชื่อ “Current” ซึ่งเป็นส่วนที่แสดงสถานะการทำงานของ Order ปัจจุบัน และสร้าง Child ต่อจาก “Current” ชื่อ “Outbox” และสร้าง Child ต่อจาก “Outbox” ชื่อ “Inbox” ซึ่งตัวเลือกในการสร้างใช้เป็น UI →Image และทำแบบนี้ทั้งหมด 4 Box เท่ากับจำนวนสินค้าทั้งหมด

ต่อไปจะสร้างในส่วนของ Product List ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ผู้ใช้สามารถ Input สินค้าได้จากการกดปุ่ม เพิ่ม ลบ ที่แสดงในหน้าต่างได้ เลือกแถบหน้าต่าง Hierarchy → สร้าง Child ต่อจาก “background” ตั้งชื่อว่า “order” สร้าง Child ต่อจาก “order” ชื่อว่า “title” และทำการเปลี่ยนข้อความใน Text เป็น “PRODUCTS LIST”

ต่อไปทำการสร้าง “Child” ชื่อว่า Box ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 4 box ว่างๆและทำการตั้งชื่อ Box1, Box2, Box3, Box4 ตามลำดับ ไว้สำหรับแสดงแสดงผลเมื่อมีการกดเพิ่ม หรือลบจำนวนของกล่อง และทำการกำหนดขนาด ตำแหน่ง หรือสีของ Box ที่แสดงผลในแถบ Inspector และทำแบบเดียวกันกับทุกBox

เมื่อสร้างส่วนแสดงผลแล้ว ต่อมาทำการสร้างส่วนของ Input นั่นก็คือ ปุ่ม “SEND” โดยทำการสร้างเป็น Child ต่อจาก “Order” → UI → Button และตั้งชื่อว่า “SEND” ซึ่งทำการตั้งค่าขนาดของปุ่มกด หรือ ข้อความ ได้จากแถบ Inspector ของ Object นั้นๆได้เหมือนขั้นตอนอื่น ๆ

จากนั้นสร้าง Input สำหรับการกดสั่ง Order ของทั้ง 4 กล่อง โดยสร้างเป็น Child ชื่อ “BR_r” และทำการตั้งค่าในแถบ Inspector เป็นสีแดง และปรับขนาดดังที่ปรากฏในแถบ Inspector และจากนั้นทำการสร้าง button เป็น Child ของ “BR_r” ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 button ได้แก่ button “+” และ button “-” และ text สำหรับแสดงจำนวน จะได้รูปแบบออกมาเป็นดังรูป

ทำแบบเดียวกันกับด้านบน อีก 3 สี ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว และสีฟ้า ดังนี้ และจะได้เป็น UI สำเร็จพร้อมนำไปใช้งานต่อดังรูป

MQTT

MQTT (Message Queuing Telemetry Transport) เป็นการสื่อสารแบบ M2M (Machine-to-machine) โดยใช้ internet เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล โดยในการส่งข้อมูลแต่ละข้อมูล จะเปรียบเสมือนการอัพเดตตัวแปรหรือ topic ในระบบ

Publish จะเป็นการ Update ตัวแปรของ topic นั้นๆ เช่น Publish [PushBackRed/] ก็คือจะเป็น topic ที่เช็คว่า Sensor Check Back ของก้านสูบ Pneumatic ถอยกลับด้านหลังจนสุดหรือไม่ และส่วนของ Sensor Check Front จะมีลักษณะการทำงานแบบเดียวกันกับ Sensor Check Back

Subscribe จะเป็นการรับค่า หรือ ติดตาม topic นั้นๆว่ามีการอัพเดตค่าใหม่หรือไม่ ถ้าหากไม่มี device ไหน Publish มาก็จะค้างค่าเดิมไว้ตลอด

• System coding

การทำงานที่ใช้ mqtt ส่วนแรกที่ใช้สำหรับแสดงผลสถานะการทำงานของสินค้าปัจจุบัน ซึ่งจำนวนกล่องที่ต้องแสดงสถานะการทำงานนั้นมีด้วยกันจำนวน 4 กล่อง จะมีสถานะด้วยกัน 3 สถานะ คือ สถานะที่บอกว่าของเสร็จแล้ว สถานะที่กำลังทำงานอยู่ และ สถานะที่ไม่สามารถบอกได้

ต่อไปจะเป็นการประกาศตัวแปร เป็น public เพื่อจะเรียกใช้งานผ่านหน้า unity ซึ่งจะมีจำนวนตัวแปรที่ต้องประกาศ 4 ตัวด้วยกัน นั่นก็คือ block ทั้ง 4 และ block ที่บอกสถานะของทั้ง 4 block

เป็นการนำ Library ของ mqtt ที่มีชื่อว่า M2Mqtt มาใช้เพื่อเชื่อมต่อกับ device อื่น โดยมี LocalHost “broker” เป็นตัวกลางในการจัดการ

ส่วนของ Function ที่เมื่อมีการ Publish topic ค่าที่เราได้ Subscribe ไว้

ฟังก์ชันที่ใช้ในการประมวลผล Status ที่ออกมาในรูปของ UI ซึ่งจะเรียงเป็น สีและตามด้วยสถานะการทำงานของบล๊อกนั้นๆ

เป็นฟังก์ชันที่เอาไว้กำหนดค่าสี ที่ใช้ใน UI ส่วนของแถบแสดง Status ของ order ปัจจุบัน โดยตัวกำหนดสถานะของorder มี 3 ตัวได้แก่
“W” : wait หมายถึงสถานะที่กำลังทำงาน (แถบสีแดง)
“P” : perfect หมายถึง สถานะการทำงานที่เสร็จแล้ว (สีเขียว)
“X” : none หมายถึงสถานะที่ไม่สามารถบอกได้ (สีเทา)

Idea of System Evaluation

• System Performance
  System Specification : Accuracy of Status, Response to user, UI window
• Usability (ผู้ใช้จะใช้งานระบบเราได้ยังไง)
  สำหรับการใช้งาน User สามารถใช้ HoloLens ร่วมกับระบบ Smart Factory ในการดูระบบและเห็นถึงสถานะการทำงานของแต่ละstationได้อย่างเข้าใจ และ ใช้งานง่ายผ่าน UI ที่ได้ออกแบบไว้ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Smart Factory ด้วย
• Values for Specific Task
  คุณค่าเฉพาะของงานนี้คือ การใช้ประโยชน์ของระบบที่สร้างขึ้นมา จากการใช้ HoloLens ทำงานร่วมกับ Smart Factory ในการดูสถานะการทำงานของระบบได้อย่างง่าย และสะดวกต่อการเข้าใจมากขึ้น ซึ่งสามารถประเมินคุณค่าของงานได้ด้วยแบบสอบถามจากผู้ที่ทดลองใช้งาน เปรียบเทียบการทำงานก่อนใช้ และหลังใช้

Working Video

Summary

จากการดำเนินงานมาตั้งแต่เริ่มต้น มีการใช้เทคโนโลยี AR Vuforia Engine มาใช้ร่วมกับ unity ในการออกแบบระบบ และใช้งานร่วมกับ การ Communication แบบ MQTT Protocol โดยการทำงานจะเริ่มจากการที่เรา Run Vuforia Unity เพื่อใช้กล้อง Webcam ในการ detect การ์ด Qr code ที่เราได้สร้างและทำการลงทะเบียนเป็น Marker ผ่าน web browser ของ Vuforia Developer Portal เพื่อเก็บเป็น database เอาไว้ แล้วทำการดาวน์โหลดไฟล์รูปนั้นในรูปแบบการใช้งานสำหรับ Unity : (Unity package File) เพื่อมาสร้าง Image Target ใน Unity โดยจะต้องใช้ License Key ที่ได้ลงทะเบียนไว้ใน Vuforia Developer Portal มาตั้งค่าการใช้งาน Image Target นั้น เพื่อให้ UI ที่สร้างไว้สำหรับ Marker นั้นๆ โชว์ขึ้นมาได้ โดย UI จะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ก็คือ ส่วนที่แสดงสถานะปัจจุบันของ Order และ ส่วนที่เป็น UI Input เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้าง Order ได้ตามความต้องการ ซึ่งการทำงานของทั้งหมดนี้ได้ทำการจำลองผ่านตัวอย่างที่ผู้จัดทำได้สร้างขึ้นมาเองดังวิดีโอข้างต้น

System Evaluation

• ตัวอย่างของหัวข้อที่ใช้ในการประเมินระบบในเบื้องต้น

จากแบบประเมินข้างต้น สรุปได้ดังรูปด้านล่าง

0 : แย่มาก
1 : ค่อนข้างแย่
2 : ปานกลาง
3 : ดี
4 : ดีมาก

UI Design Result

จะกราฟแท่งแสดงระดับของการประเมินจะเห็นได้ว่าผลลัพธ์ของการประเมินในส่วนของ UI Design อยู่ในระดับ 3–4 หรือ อยู่ในระดับดี ถึงดีมากนั่นเอง

Input UI and Run

สำหรับส่วนของ UI Input จากกราฟจะเห็นได้ว่าระดับการประเมินอยู่ในระดับดี

Gantt chart

Problems and Solutions

P : ปัญหาในการติดตั้งโปรแกรม และ เรียกใช้ Vuforia สำหรับ Unity
S : ตรวจสอบความต้องการของระบบให้ตรงตามที่โปรแกรมนั้นๆต้องการ

P : Protocal ของระบบ smart factory จริงๆยังไม่มีความแน่นอนในการใช้งานระบบ
S : สร้าง Protocal ขึ้นมาเพื่อจำลองการทำงานของระบบ และติดต่อกับฝั่งระบบของ smart factory เพื่อความเข้าใจตอนใช้งานที่ตรงกัน

P : UI ที่แสดงในระบบยังไม่ได้อยู่ในรูปแบบสามมิติ
S : ทำการออกแบบ และปรับใหม่ใน unity ให้เป็น 3D

Teams

นพพร บุษบาวไล
รับผิดชอบส่วน : MQTT Protocol and communication

ธิดารัตน์ ดวงสวัสดิ์
รับผิดชอบส่วน : Unity and Vuforia